28 กันยายน 2560

ทุกหนึ่งวัน

ทุกหนึ่งวัน จะมีเรื่องเจ็บปวดเกิดขึ้นหนึ่งเรื่องเสมอ
.
แล้วเธอเลือกทำอย่างไรกัน
.
บางเรื่องไม่ใหม่ แต่ปะทะกันเมื่อไหร่ ก็ให้แผลสดใหม่เสมอ
บางเรื่องที่แผลนิดเดียว บางทีใช้เวลาเยียวยากว่าแผลใหญ่
ด้วยความลึกของแผลนั้น
.
แล้วเธอเลือกทำอย่างไรกัน
.
ไม่ต้องตอบเราหรอก เราก็ไม่อาจตอบเธอเช่นกัน
.
เราจะกล้าตั้งชื่ออัลบัมนี้ว่า ยาบรรเทาเจ็บในหนึ่งวัน เช่นนั้นจริงเหรอ
แต่เราก็ตั้งไปแล้ว


22 กันยายน 2560

22 กย. ฟ้าครึ้ม กับงานค้าง

บล็อคเดือนนี้เพิ่งมีแค่สองชิ้น
อเนจใจ.
.
ก่อนหน้าเดินทางไกล
ไปธุระกับแม่
มาทางไกล
ก็ใช้เวลากับแม่
.
สามวันแรกไม่มีความเคลื่อนไหวในหัว
เข้าวันที่หกเจ็ด เริ่มดีขึ้น
ทำงานได้
.
เริ่มมี แคปชั่นในหัวมาอีกละ
สลับกับบางเวลาแบล็งค์ๆ
.
อันที่จริงเรื่องกระทบใจเยอะมาก
แต่ถ่ายทอดออกมาไม่ได้
เหมือนกับคนที่เตรียมเรื่องมาเล่า แต่ไปหน้าชั้นกลับพูดไม่ออก
ติดอะไรสักอย่าง
แล้วเลือกกลืนความจริงนั้นเข้าไปอีกรอบ
.
สุดท้าย ความจริงคือกากชนิดหนึ่งที่รอขับออกจากร่างกาย

ภาพประกอบ : Olympus XA2 + Ilfordpan400 / A&B Digital Lab

8 กันยายน 2560

ภาพสตรีท นิิทรรศการ และร้านกาแฟ กับ IT HAPPENED AROUND HERE / อิท แฮปเพ่น บาย เต้




ศุกร์ต้นเดือน
การไหลเลื่อนของยวดยาน
เหงื่อไหลซึมไรผม ให้รสเค็มเหนือริมฝีปาก

ความวุ่นวายทั้งหลายล้วนแต่ผลักไส ให้เราอยากกลับไปขดตัวนิ่งอยู่มุมหนึ่งของห้องอย่างเช่นเคย

แต่วันนี้มีอะไร ดูว่ามีอะไรในเย็นวันนี้ เราไม่คิดว่าเราจะลืม แต่เพียงแค่บางทีเราก็กลับใจเปลี่ยนไปมา
สิ่งที่เราคิดคือ เราจำได้ว่ามีงานสตรีทเปิดตัววันนี้ แต่เราก็จำได้ว่าเราแค่อยากไปดูภาพ เราไม่ได้อยากไปงาน

"วันศุกร์เจอกันนะครับพี่.. "

มีคำถามว่า อะไรที่ทำให้ อินโทรเวิร์ทผู้มีความสุขกับพื้นที่ปลอดภัยรอบตัวอย่างเรา ถึงกับลุกออกไปข้างนอก ไปในที่ที่ไม่รู้จักใครเลย อะไรคือแรงบันดาลใจนั้น 

บ่ายวันก่อนที่ร้านกาแฟ หนุ่มน้อยเจ้าของผลงานสตรีท กับนิทรรศการที่กำลังจะจัดขึ้น ได้นั่งเล่าความเป็นมาเป็นไป จนเราลืมไปว่าห้านาทีก่อนเราต่างก็รู้จักแค่ความว่างเปล่าของกันและกัน

เต้เล่าให้ฟังว่า ได้ไปทำเวิร์คชอป กับกลุ่มสตรีทโฟโต้ไทยแลนด์ และออกไปถ่ายงานมากขึ้น และตั้งใจทำ JP365days  และออกไปเดินถ่าย ถ่าย และถ่าย ถ่ายในสถานที่รอบตัวเต้ ถ่ายที่ละแวกบ้าน ถ่ายที่ริมทะเลสาบ ถ่ายข้างทาง ถ่ายตึกตระหง่านตรงหน้า ถ่ายผู้คน ถ่ายกาลเวลาที่หยุดไว้ในชัตเตอร์เดียวของเต้

และสิ่งที่เก็บไว้ได้หลังม่านชัตเตอร์นั้น ไม่ได้หยุดอยู่แค่ sd card / external harddrive แต่เต้ได้เลือกที่จะส่งภาพเหล่านั้นสื่อสารไปยังอีกฟากโลก โลกที่สีสันของสตรีทอึกทึก แสบสันต์ และมีมนต์สะกดผู้คนให้ยืนจิกเท้าอยู่ตรงหน้า.. ภาพแปลกตาล้วนน่าตะลึง

ถ้าเพียงแต่แค่นั้น เราคงไม่ได้คิดจะมายืนรอดูอยู่ตรงนี้

ก็เพราะความพยายามส่งเสียงด้วยภาพของเค้า สามารถสื่อสารไปยังวัฒนธรรมอีกฝั่งได้ ผลงานเต้จึงได้รับการคัดลือกให้เข้ารอบ final list  มีคนไทยไม่กี่ราย ที่ไปได้ถึงตรงนี้

คงไม่ต้องถามแล้วว่าความปิติมากล้นแค่ไหน
.
เราชอบถ่ายรูป เราถ่ายไปเหมือนกิจกรรมหนึ่งเช่นเดียวกับการอาบน้ำ เข้าส้วม เราบันทึกเรื่องราวได้บ้าง เราถ่ายทอดอะไรได้บ้าง เรายังเรียนรู้อยู่ทุกวันที่จะสร้างภาพของเราในแบบนั้นแบบนี้ ให้ดีขึันกว่าเมื่อวาน

เรารู้จัก ภาพแนวสตรีทอย่างกระท่อนกระแท่น เราพยายามดูตัวอย่าง บางทีเราคิดว่าใช่ และก็ใช่.. เป็นเราที่คิดไปเอง การได้เห็นภาพสตรีทจากเพื่อนๆ นักถ่ายภาพ ทำให้เราสนใจมากขึ้น พยายามมากขึ้น แต่พยายามของเราคงยังไม่เท่าไหร่

และที่เราพบแน่นอนเลยคือ มันยาก มันยากในเรื่องของจังหวะ มันเป็นความบ้าบิ่นที่ลงตัว และมันเป็นหนึ่งเดียวกันของความพยายามอดทน และการรอคอย 

รอคอยให้ได้มาซึ่ง Dicisive moment รอคอยจังหวะที่พอดี ที่สวยงาม
.
อาจมีเพียงเสี้ยวของเสี้ยววินาที คุณจับมันไว้หลังม่านชัตเตอร์ได้ไหม
.
ยากอย่างนี้ แต่หนุ่มคนนี้ทำได้ถึงขนาดเข้ารอบไฟนอลสิสต์ทุกรายการ เราว่าเค้าก้าวข้ามไปสู่เวทีใหญ่ได้อย่างสวยงาม

วันที่เราพบกันอีกครั้ง ชายหนุ่มคนนี้ยังเป็นคนยิ้มง่าย ต้อนรับขับสู้ พี่ๆ และเพื่อนๆ ในกลุ่มสตรีทอย่างเป็นกันเอง ความเป็นธรรมชาติจึงเป็นตัวตนที่ปรากฏให้เห็น.. เหมือนเช่นในภาพที่เค้านำเสนอ และภาพนั้นก็ถูกมองด้วยสายตาเดียวกัน ทั่วโลก

ขอแสดงความยินดี กับนิทรรศการ IT HAPPENED AROUND HERE นิทรรศการภาพภ่ายสตรีทของเต้ จตุพร ปทีปะปานี สตรีทโฟโตกราฟฟี่ชาวไทยที่ไปฝากผลงานไว้ระดับสากลมาแล้ว

นิทรรศการเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 - 30 กันยายน 2560 ที่ร้าน Low Poly Cafe' ร้านกาแฟอบอุ่นและเป็นกันเอง ตั้งอยู่ในเมืองทองธานี

สถานที่หาไม่ยาก ขับไปหลัง Be Hive เจอซอยหมู่บ้าน เลี้ยวหา ซอย A5

.
งานเปิดตัวผ่านไปได้ด้วยดี เพื่อนพี่น้องในวงการสตรีท มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ฝนจะมาฟ้าจะหม่น แต่ทุกคนก็ยังอยู่แสดงความยินดีกับเจ้าของงานอย่างไม่ล่าถอย

ส่วนเรา ผู้มาเยือนในครั้งที่สอง..ก็สัมผัสได้ถึงความมีพลัง พลังของคนหนุ่มสาว พลังอย่างนี้ขับเคลื่อนโลกอนาคตได้แน่ โปรดติดตามชม
















7 กันยายน 2560

ก่อนจะแฮปเพ่น อะราวแดร์

มีเรื่องราวเกิดขึ้นรอบๆ สถานที่หนึ่ง
และก็มีแรงพอจะดึงใครต่อใคร ต่อใคร ให้มารวมกันรอบๆ สถานที่นั้น
.
ประโยคข้างบน ไม่ได้เป็นฉากเปิดซึ้งหวาน และไม่ได้จะเป็นการเริ่มตำนานแห่งการพบกัน ฮ่าๆ
.
แต่
.
It happened around here ทำให้เราไปอราวด์ there
.
เช่นทุกวัน มนุษย์ออนไลน์ไล่เลื่อนหน้าfeed ผ่านไปอย่างเรื่อยเปื่อย ขำเบาๆ ให้กับดราม่าน่าสะเอียน ไปจนถึงนึกชื่นชมและขมขื่นกับประดาผู้คน ที่บางที เราไม่เห็นจำเป็นต้องรับรู้หรือพบเจอ
.
โลกในจอ ไม่สวย โลกในใจ สิสวยกว่า.. คมไหม
เราเลือกเสพได้ ขอย้ำ
.
พักนี้สนใจส่องงานภาพถ่ายบ่อย จนมาเจอว่าจะม่ี การแสดงงานสตรีทงานหนึ่ง จัดที่เมืองทอง
โอเค ไปแถวนั้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว ไม่ถือว่าไกล ไม่คิดว่าไปลำบาก จัดที่ร้านกาแฟด้วย ดีสิเราชอบ ดีสองสามข้อแล้ว ไม่ต้องรอไหมล่ะ ไปกัน..
.
ไปเมืองทองทุกครั้ง ถ้าไม่ใช่จุดที่ไปประจำ ก็หลงทุกที ออกจาก ธ.รวงข้าวถามเค้าแล้วเชียวนะ ว่าตรงไหนเรียก ป๊อบปูล่าคอนโด รปภ.สุดหล่อก็บอกว่า..ตรงนี้ล่ะครับ ../  ครับกว้างดีจังนะครับ
.
GPS เน่าๆ ของเรานำทางไม่ค่อยรอด บอกเลย ต้องดูเอาว่า รอบๆ พิกัดนั้นมีจุดสำคัญอะไร แล้วไปให้ใกล้ที่สุดเข้าไว้ เราเชื่อ goolgle map มาก กระทั่งพี่ที่รักคนหนึ่งเคยบอกว่า "มึงเชื่อสัญชาติญาณมึงมั่งก็ได้นะ"  ฮ่าๆ อากู๋ฯแมพ พาไปสุดกู่อู่ถนน ฮ่าๆ อีกนิดเดียวไปรังสิตแล้วป่ะละ 5555 "
.
ชีวิตมันจะง่าย ถ้าเรายึด มสธ และ Be hive
ถูกสิ เราเคยออกจาก Behive แล้วขับวนหลงมาหลังหมู่บ้านนี้แล้ว ตอนหลงไม่รู้ว่าหลง แต่พอหลงมาจุดที่เคยหลงถึงไม่หลง งงมะ
.
และแล้ว เราก็เจอ
Low Poly Cafe'
นี่ล่ะ จุดหมายที่ปักหมุดมา
.
คาเฟ่สีขาว หลังบานกระจกนั้น คือพื้นที่กลั่นกาแฟชั้นดี และพื่นที่จัดความอิ่มหนำให้ผู้มาเยือน
สาวน้อยผมม้า ยิ้มสดใส ต้อนรับเสียงดัง (ความสดใสลำดับที่หนึ่ง..)
.
หลังจากเลือกกาแฟหนึ่งรายการแล้ว เราก็หย่อนใจลงในโต๊ะเล็กใกล้เคาน์เตอร์ สายตาสำรวจหาภาพงานสตรีท พลางชมการจัดแต่งของร้าน ที่ไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อยซะทีเดียว เป็นร้านกาแฟที่มีเคาน์เตอร์ใหญ่ดีมาก ไม่ใช่แค่ผนังกั้นกลางระหว่างคนปรุงกับคนชิม แต่ยังเป็น โต๊ะเดี่ยวสำหรับมาคนเดียวอีกด้วย
.
ถ้วยกาแฟฟูฟองนม พร้อมเสิรฟ์ บทสนทนาแรกๆ ของเราคือ การถามถึงงาน event เราจำไม่ได้ละ ว่าใครถามใครก่อน แต่คำตอบที่ได้คือ งานจัดวันที่ 1 กย. (วันที่เราไปคือ 28 สค.) แป่ว.. เป็นเราแน่ที่ไม่เคยดูวันเวลา ฮ่าๆ
.
การมาไม่เจอไม่สามารถสร้างความผิดหวังให้เราได้ เพราะเราก็ได้มาชิมกาแฟ ของชอบอยู่แล้ว ครู่ถัดมามีหนุ่มน้อยเดินเข้ามาทัก
"สวัสดีครับ นิทรรศการจัดวันที่ 1 ครับพี่ ตอนนี้กำลังเตรียมกันครับ พี่รู้จักกับเต้ หรือครับ"
.
เปล่าครับ พี่ไม่รู้จักใครเลย
.
พี่รู้จักแต่ สยาม สตรีท โฟโต้ กับ สตรีทโฟโต้ไทยแลนด์ และสองชื่อนี้พี่เรียกสลับกันเสมอ สับสน
กับอีกคนที่เพิ่งรู้จัก คือคุณซัน อาทิตย์ ที่เพิ่งว่างฟังไลฟ์ เรื่องการถ่ายภาพสตรีททุกวันพุธ ล่าสุดเพิ่งฟังจนจบและก็เล่นเกมส์ ได้กล้องฟิล์มใช้แล้วทิ้งมาหนึ่งม้วน พี่เคยส่งรูปไปแต่ไม่ผ่านสักที ก็ไม่เลิกถ่ายนะ แต่ไม่ได้ส่งต่อ ฮ่าๆ
.
เป็นอันเข้าใจกันว่าพี่มายังไงแล้ว ดูน้องก็หายกังวลต่อการรับแขกใหม่ผู้มาเยือน (ความสดใส ลำดับที่สอง )
.
วันนี้เรามีหนังสือของนักถ่ายสตรีทไทยติดมาอ่านด้วย ใช้เวลาและบรรยากาศเดียวกันซึมซับทำความเข้าใจในสตรีทไปเรื่อยๆ เราไม่รีบหรอก เราสายเฉื่อยอยู่แล้ว
.
สวัสดีครับพี่
อีกหนึ่งหนุ่มเดินเข้ามาทัก พร้อมแนะนำตัว "ผมชื่อเต้ครับ พี่มาดูนิทรรศการเหรอครับ"
ใช่ครับ พี่มาก่อนวันงาน ฮ่าๆ
แล้วหนุ่มเต้ เจ้าของงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็ชวนคุยเล่าถึงที่มาที่ไป และสำทับท้ายว่า อย่าลืมมานะครับพี่ วันศุกร์นี้ (ความสดใส ลำดับที่สาม)
.

คาปูร้อน ไม่ทันเหลือนอนก้นถ้วย เราก็ส่งขนมปังกระเทียมชิ้นสุดท้ายหายเข้าปากไป อร่อยสดใหม่ เหมือนที่เราสัมผัสได้ว่า ที่นี่ มีมวลความสดใสลอยอ้อยอิ่ง ในพื้นที่แห่งความฝันส่วนตัว และน้องๆ ได้จับมารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

(จะมาเล่าต่อ เจอกันวันงาน)


(เจอกัน วันงาน..)

เหตุการณ์ : It happened around here : Street Photography Exhibition By Jatuporn Pateepaparnee
สถานที่ : Low Poly Cafe
วันที่ : 1 - 30 Sep. 2017