1 มกราคม 2561

รีวิวอะไรดี รีวิวแม่เราเอง ดีไหม

รีวิวอะไรดี
รีวิวนักรีวิว ดีไหม
ดิไอดอลข้าพเจ้า มีเยอะนะ
.
เริ่มจาก ดิไอดอลในบ้าน “แม่.. ข้าพเจ้าเอง”

เมื่อคืนนี้ หลังผ่านยี่สิบสี่นาฬิกาไปได้สักเกือบครึ่งชั่วโมง เราก็ปิดไฟเข้านอนเพราะแม่หลับไแล้ว 
ที่จริงแม่เข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่มกว่า เหนื่อยจากการชักชวนกันหอบเสื่อไปนอนเล่นที่สวนรถไฟ

เมื่อครั้งก่อน..หลังจากกลับจากโคราชในเดือนตุลาคม แม่ก็งอนกันกับเรา และไม่มีคิวหมอนัด เลยกลายเป็นว่าแม่ก็ไม่ได้ออกไปไหน เดินอยู่ในคอนโดเสียเป็นส่วนใหญ่ เช้าวานเป็นวันครบรอบที่พ่อจากครอบครัวไป ทุกปีคนที่ยังอยู่ แม่บ้างพี่ชายบ้างเราบ้าง ก็จะไปทำบุญ ถวายสังฆทานกัน เลยสังเกตเห็นว่าแม่เดินเซไปเซมา ก็คิดว่าลองชวนให้ไปสูดอากาศและเดินออกกำลังบ้าง ดูว่าแม่คงสนใจ เพราะรับคำชวนในทันทีที่ถาม




กรรมวิธีเตรียมตัวก่อนออกจากบ้าน ของผู้สูงอายุแต่ละคน จะมีสไตล์เป็นของตัวเอง แม่เราก็เช่นกัน  ในปีก่อนเครื่องมือเครื่องไม้รอบตัวยังน้อยชิ้นกว่านี้ ออกจากบ้านได้คล่องกว่านี้ แต่ปีนี้ สารพัดพันกายมาเกี่ยวข้อง กางเกงกันซึมเปื้อน รัดเอว รัดเข่า ไม้เท้าสามขา เครื่องช่วยฟัง ไม่นับรวมถึงขั้นตอนในการจะใส่แต่ละชิ้น ต้องมีสเต็ป วัน ทรู ทรี แบบที่แม่เป็น ตัวอย่างง่ายๆ คือ ขั้นตอนท้ายสุดเมื่อใส่รองเท้าแล้ว ต้องล้างมือด้วยอัลกอร์ฮอร์ แล้วถึงจะไปบิดลูกบิดประตู ในความเป็นจริงอยากบอกแม่ว่า ที่ข้างนอก ที่เราไปพบไปเจอ เราต้องสัมผัสอะไรอีกมากที่เราไม่รู้ว่ามันไม่สะอาดแค่ไหน แต่เราก็ไม่พูด และเราก็ทำตามแม่ทุกประการ

วันส่งท้ายปี ถนนโล่ง ใช้เวลาสามสิบนาทีเราก็ถึงยังจุดหมาย ทางผ่านเข้าสวนรถไฟติดขัดเพราะคนมาทำบุญที่สวนโมกข์กรุงเทพฯ เราถึงลานจอดแล้วต้องแปลกใจ ที่จอดรถมีว่างหลายจุด จนหล่ออย่างเราเลือกจอดตรงไหนก็ได้ และแน่นอนใกล้ทางเข้าก็ว่างสำหรับเรา

 แม่มีการเตรียมตัวที่ดีขึ้นมาก หลังจากเหตุการณ์งอนกันมาราธรในครั้งนั้น ยกตัวอย่างเช่น การปรับการกินยาเอง แบบที่ไม่ต้องรอให้หมอสั่ง (คือหมอเคยแนะนำแล้ว แต่เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน แม่จะไป รพ.อย่างเดียวโดยลืมคำแนะนำนั้น) ในความเป็นจริงแม่ผ่านการทดลองปรับยามาได้ด้วยตัวเองในวันหนึ่งที่แม่ต้องรับมือกับอาการเพียงลำพัง อาจฟังดูน่ากังวลที่ผู้สูงอายุต้องเผชิญหน้ากับความแปลกเปลี่ยนในระบบร่างกาย แต่ความเป็นแม่ที่มีวิชาชีพพยาบาลติดตัวมาเนิ่นนาน แม่เองก็ประเมินสถานการณ์ได้ประมาณหนึ่ง

หลังจากนั้น ดูว่าแม่มีความพึงใจในการรับมือกับอาการแปลกที่มาหาแค่ชั่วคราวได้ ทั้งนี้ ยาประจำตัวที่แม่ใช้อยู่มีผลต่อการเป็นมาและเป็นไปของความแปลกที่ว่า ตอนนี้แม่มีชัยเหนือสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ายา ไปได้หนึ่งขนาน



การปรับเปลี่ยนในเรื่องถัดมา เรื่องสิ่งของที่แม่ตระเตรียมไปด้วย แน่นอนผู้ใหญ่มักคำนึงถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าเสมอ ดังนั้นนอกจากเอกสารสำคัญ กับหยูกยาที่จำเป็นพกติดตัวแล้ว แม่ยังต้องมีกระเป๋าฉุกเฉิน (มีเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวหนึ่งเซ็ท) สมุดบช.ธนาคาร (พกทำไมนะ) แต่แล้วในการเดินทางใกล้รอบนี้ สิ่งที่แม่เตรียมไปมีเพียงเอกสารสำคัญ กับ.. “น้ำอุ่น” ใช่ค่ะ
น้ำอุ่น แม่จะดื่มน้ำอุ่นเท่านั้น  

สำหรับเรา ไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว หมดคำถามเสมอสำหรับความเป็นแม่.. ข้อมูลข่าวสารที่หลั่งไหลมาหาแม่ ล้วนมาจากเพื่อนกลุ่มเกษียณทางโซเชียลชื่อดังที่เรียกกันว่า “ไลน์” แม่เล่นไลน์บ่อย แม่เป็น ไลน์แอดดิค แน่นอนย่อมมีกลุ่มหลายกลุ่ม มีกิจกรรมส่งดอกไม้สวัสดีเช้าเย็น จันทร์ถึงอาทิตย์ มีกลุ่มครอบครัวที่จะส่งข่าวหลักๆ ก็คุยกับลูกสาวคนโตที่อยู่โคราช ชนิดว่าตื่นมาก็ทักทาย ทำอะไรก็บอกไป มีอะไรก็บอกกันมา เรื่องหนัง ละคร เรื่องกินนั่นนี่ เรื่องเจ็บป่วย เรื่องเตือนภัย และนี่ไง.. ประเด็น

แม่รับอะไรในไลน์มา แม่มาแชร์ให้ลูกหมด แม่กำชับเตือนยิ่งกว่าโนติฟิเคชั่นในไลน์เตือนมา อย่าแบบนั้น อย่าอย่างงี้ ระวังนั่น แกงค์คอลเซ็นเตอร์ ภัยในปั๊มน้ำมัน อาหารนี่ปลอมนะจากจีน ตัวนี้ผสมสารนี่นั่น อย่าไปกินนะ คุณหมอเค้าว่าอย่างนั้นนะ ได้อ่านไหมที่แม่ส่งไป อย่าทำเป็นเมินเฉยนะ ไม่ควรประมาทนะลูก

ความหวังดีจากข่าวสารที่เราไม่รู้แหล่งที่มาก็พาเราหลงเชื่อแบบถูกบ้างผิดบ้าง ส่วนตัวเราแล้ว ก็ดูๆ เอาว่าสิ่งนี้ดี นำมาใช้ได้ไม่เกิดโทษ ไม่ลำบากแสนเข็น ไม่ทำให้ชีวิตวุ่นวายเพิ่มขึ้น เราก็นำมาปรับบ้าง เช่น ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง ทำได้สบายดีด้วย

แต่แม่ เป็นสายสตรอง ล่าสุดมีคุณหมอบอกว่าดื่มน้ำอุ่นช่วยระบบหมุนเวียนของเหลวในร่างกาย (อะไรสักอย่าง) แม่พยายามบอกให้ลูกทำ แต่ไม่มีใครสามารถดื่มน้ำอุ่นได้ตลอดเวลา ยกเว้น แม่.. ค่ะ




เอาน่ะ..ในที่สุด ความดีอย่างหนึ่งของข้อมูลทางไลน์คือ แม่ยอมทิ้งสัมภาระมากมายอื่นๆ เพื่อพกกระบอกน้ำอุ่น (สองกระบอก) ใส่กระเป๋าน้อยติดตัวไป ดังนั้น การเดินทางไปปิกนิกนอกบ้านเมื่อวานนี้ จึงมีแค่ กระเป๋ายา เอกสารสำคัญติดตัว เสื้อกันหนาว ไม้เท้าสามขา และกระบอกน้ำอุ่น ทั้งหมดนี้จัดได้หนึ่งถุงสะพายใบโตหิ้วไหว ส่วนเรา มีเป้ใส่กล้องไปทดสอบสารพัดยี่ห้อ มือนึงหิ้วถุงสะพาย เหลืออีกมือไว้จูงแม่ได้สบายแฮ

เดินเข้าไปในสวน เจอผู้คนเยอะมากจนตกใจ ในตอนแรกเราคิดว่าจะขี่จักรยานสักสองสามเหงื่อ อย่างน้อยจะได้บริหารข้อเข่าที่เราพบว่าน่าจะเริ่มมีปัญหาซะแล้ว แต่เห็นผู้คนหนาแน่นเสียเหลือเกิน เราเลยเปลี่ยนแผน ไม่เป็นไรนั่งถ่ายรูปเล่นใกล้ๆ แม่ดีกว่า



เดินมาไม่ไกลจากประตูทางเข้า เราก็หาทำเลใต้ร่มไม้เหมาะๆ ได้หนึ่งร่มเงา พื้นลาดเอียงนิดหน่อย แม่บอกว่านั่งได้ แต่อาจต้องคอยขยับหนีรำไรแดดทุกยี่สิบนาที ตรงนี้ไม่มีปัญหา จัดที่ทางเสร็จสรรพ เราเริ่มเล่นอุปกรณ์นู่นนี่นั่น แม่ก็ขอต่อ wifi พร้อมแล้วสำหรับการตากอากาศของแม่ ความเพลินใจคือการเล่น ไลน์ป๊อบ ที่แม่ติดมาก เล่นทุกวัน วันละหลายๆ เวลา ลูกๆ เข้าใจได้ เพราะนี่คือการฝึกสมองของแม่ คนสูงวัยลองว่าชอบเล่นเกมส์ล่ะก็ ความจำดีทุกราย แต่มักจำไม่ได้ว่า เรื่องนี้บ่นลูกไปแล้ว ร้อยยี่สิบรอบ ฮ่าๆ






สองชั่วโมงผ่านไปรวดเร็วตรงข้ามกับสายลมที่พัดเอื่อยให้แม่งีบนอนได้หนึ่งตื่น สามโมงครึ่ง น้องๆ เดินทางมาสมทบ เพื่อนำของขวัญมาสวัสดีปีใหม่แม่ ทักทายให้ของขวัญรับศีลพรนั่งคุยเรื่องสุขภาพกายใจ ขณะเดียวกันก็ถือไม้จิ้มส่งของว่าง ได้แก่ลูกชิ้นและพวกของทอดเข้าปากกัน เคี้ยวเพลินคุยกันจนได้เวลาแดดคล้อยลงต่ำ สมควรแก่เวลา น้องๆ ก็จูงมือแม่พากันเดินออกจากสวน แล้วมาส่งที่รถ







เป็นวันส่งท้ายปีที่ดี สำหรับการได้สูดอากาศสดชื่นสำหรับแม่ และนั่นก็ทำให้คนเป็นลูกรู้สึกสดชื่นยิ่งกว่าอากาศที่ดี คือการได้ดูแลแม่อีกปี เราไม่ได้บอกรักกันเลย แต่เราพยายามดูแลแม่ในแบบที่เราทำได้ รวมไปถึงแบบที่พี่สาวและพี่ชายดูแลได้เช่นกัน


สวัสดีปีศักราชใหม่ คิดอะไรให้สมหวังทุกสิ่งพึงประสงค์

25 พฤศจิกายน 2560

ของยุคเก่า เจอคนยุคใหม่ คลาสสิคสายฮิปส์


















กล้องฟิล์ม ไม่ใหม่
แต่คนจะถ่าย มือใหม่
.
เลยเกิดการเดินทางมาพบเจอกัน
ระหว่างของยุคเก่า และคนยุคใหม่
.
เชื่อไหมว่า กล้องก็มีเรื่องราวการเดินทาง มีการเติบโต ผ่านวันวัยมาเกือบจะเท่าๆ กับอายุคน
.
เกริ่นมาว่ามือใหม่เจอกล้องเก่า ก็แปลว่ายังแปลกหน้าต่อกัน
.
ดิจิตัลเป็นเรื่องที่เด็กยุคนี้ลืมตามาก็เห็น รู้จัก ใช้เป็น ง่าย
แต่พอไปเจอของเก่าเข้าข่ายโบราณ เด็กรุ่นใหม่ไปไม่เป็นก็มี
ทีนี้ ก็บังเอิ๊นบังเอิญ ไอ้ความคลาสสิคชนิดย้อนยุคมาแล้วเท่เนี่ย
มันก็วนมาทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่ง เรื่องการถ่ายภาพ
.
เรื่องเลยมีอยู่ว่า น้องๆ รุ่นใหม่สนใจจะเล่นกล้องเก่า ก็คือ..กล้องฟิล์มนี่ล่ะ
แต่น้องไม่คุ้นเคยกับระบบการถ่ายแบบสมัยก่อน เลยต้องมองหากล้องที่ใช้งานง่ายๆ แล้วยังได้ภาพที่ดูเก๋า อีกทั้งคล้องคอก็ดูเก๋ นี่ล่ะ.. มาถูกทางละ 
.
ส่วนมือใหม่ ที่ใช้กล้องดิจิตัลมาอย่างจริงจังปรับค่าต่างๆ ได้คล่องแคล่วแล้ว
อาจคิดว่าไม่เร้าใจก็ข้ามตรงนี้ไปได้เลยน๊า 
แต่น้องใหม่สายออโต้ ห้ามพลาดนะ.. ง่ายในง่าย อยู่ตรงนี้แล้ว
แค่เพียงทำความรู้จักกับ ฟิล์ม ก็หยิบกล้องมาใส่ฟิล์ม ก็ออกไปกดถ่ายได้แล้ว 




.
มาๆ มาแนะนำตัวพี่กล้องฟิล์มคลาสสิค ที่ใช้ง่ายสำหรับมือใหม่กันเถอะ
.
Konica C35 AF
เป็นกล้องฟิล์ม 135 แบบคอมแพ็ค สัญชาติซามูไร เปิดตัวในปี 1977 
และก็ได้รับความนิยมมาก เพราะมันคือกล้องระบบออโต้โฟกัส ตัวแรกของโลก
.
คือก่อนหน้านี้กล้องยอดนิยมจะเป็นแบบเรนจ์ไฟเดอร์ เราต้องหาระยะจากตัววัดในกล้อง
แปลว่าตาเราต้องดีระดับหนึ่ง 
กับอีกแบบคือ แบบโซนนิ่งที่ต้องกะระยะเอาเอง นั่นหมายความว่าเราต้องแม่นในเรื่องการกะระยะ
.
พอมาเจอ Konica C35 AF 
ก็แค่ ยกกล้อง เล็งช่อง กดถ่าย
ง่าย ง่าย 
หวังผลได้ ว่าภาพจะชัดด้วยนะ
.
นอกจาก จะออโต้โฟกัสแล้ว
ยังวัดแสงออโต้ให้เสร็จสรรพ 
แล้วถ้ามืดไป แสงไม่พอ เปิดแฟลชช่วยได้ทันที 
.
ข้ามผ่านการหมุนหาระยะ ไปได้
เราก็ได้พบว่าการจัดแจงองค์ประกอบภาพก็ง่ายขึ้น
การถ่ายภาพให้ได้ลงตัว สวยงาม ชัดคม ทำได้มากขึ้น
.
เก็บโมเมนท์ได้ง่าย  รวดเร็ว ทันเวลา ได้ดั่งใจ 


บอกเล่าจากการใช้งานจริง

Konic C35 AF เป็นเหมือนรุ่นพี่กล้องป๊อกแป๊ก คืออย่าเรียกกล้องปัญญาอ่อนเลย กล้องใช้ง่ายไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องใช้ความคิดนะ กล้องเองมีกลไกของเค้า เรียกซะเค้าหมดกำลังใจเก็บภาพเลย ฮ่าๆ แต่ใครจะเรียกอย่างนั้นก็แล้วแต่สะดวกปากละกัน
.
เริ่มใช้ 
ใส่ฟิล์ม ปรับค่า ASA หรือ ISO ให้ตรงกับค่าฟิล์ม (ตัวปรับจะอยู่ที่หน้าเลนส์กล้อง)  เช่น ColorPlus100 ปรับไปที่ 100 
.
จะถ่ายแล้ว..ยกกล้องเล็ง
ในช่องมองภาพ จะมีกรอบสีเหลือง เพื่อบอกว่าส่วนไหนที่เราเห็นจะอยู่ในเฟรม และตรงกลางกรอบสีเหลืองก็จะมี สี่เหลี่ยมเล็กๆ ซ้อนอยู่ ตรงนี้ก็เพื่อจะบอกว่าเป็นจุดโฟกัสนะ ซึ่งก็คือตรงกลางภาพนั่นล่ะ 
.
ระยะชัดของภาพ
โดยปกติ เราถ่ายรูป subject หลักเช่น คน ดอกไม้หรือสิ่งของ เราก็มักจะวางไว้กลางภาพอยู่แล้ว แต่ระยะชัดของภาพล่ะ เราต้องถ่ายห่างจากแบบแค่ไหน ตรงนี้ คือเรื่องของเลนส์ 

Konica C35 AF มีเลนส์ที่ติดมากับกล้องที่ระยะ 38 mm. รูรับแสงกว้างสุดที่ 2.8
เลนส์ Konica Hexanon ที่ติดกล้องมาเป็นระยะ normal  คือระยะค่อนข้างใกล้เคียงสายตาคนเรา ตาเราเห็นอย่างไร ยกกล้องมาเล็งในส่วนที่เข้าเฟรมก็จะได้ภาพคล้ายกับที่เราเห็น แต่ไม่ได้เป๊ะ 100% เพราะยังมีการเหลื่อมของการมองเห็นจากช่องมองภาพกับการบันทึกภาพของเลนส์ ตรงนี้ แต่ละกล้อง เราต้องลองใช้ให้คุ้นมือแล้วจะพอเข้าใจ 
.
จากที่ลองใช้ เราควรถ่ายห่างจากวัตถุหรือแบบ โดยประมาณ 1-1.5  เมตร ถ้าไกล้กว่านั้นภาพก็จะมีเบลอได้ ส่วนค่า F หรือการวัดแสงเป็นแบบอัตโนมัติ รูรับแสงกว้างสุด 2.8 นอกจากถ่ายที่แสงน้อยได้ดีแล้วยังให้ระยะชัดตื้น (หน้าชัด-หลังเบลอ) ได้ดีด้วย ในเรื่องของสปีดชัตเตอร์ กล้องก็ช่วยหาค่าที่พอดีให้กับรูรับแสงเช่นกัน มีตั้งแต่ 1/60 ถึงสูงสุด 1/250 
.
ในทางเทคนิคนั้น มือใหม่อาจยัง งุนงงกับค่าเหล่านี้ แต่นั่นคือการอ่านการทำงานของกล้อง อีกหน่อยเราเข้าใจการทำงานเค้าแล้วเราก็จะคุยกับเค้าได้มากขึ้น เป็นกำลังใจให้นะ

ความรู้สึกเมื่อพกพา ใช้สอย
เป็นกล้องที่พกสะดวก จับถนัดมือ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป วัสดุเป็นพลาสติกแต่มีความแน่นดูมั่นคงพอตัว ห้อยคอได้ไม่รู้สึกเป็นภาระ
เวลายกขึ้นมาเล็งดูไม่โดดเด่นจนคนทั่วไปจะรู้สึกกลัว แต่มีนิดเดียวที่เสียงชัตเตอร์ลั่น ค่อนข้างดังพอสมควร แอบถ่ายแมว มีสะดุ้งเล็กน้อย 

ข้อดี
โฟกัสง่าย จุดเด่นเค้าเลยนี่นะ
ออกแบบสวย ดูหล่อ ไม่วินเทจแต่ก็ไม่เฟี้ยวมากไป ขณะเดียวกัน ที่กลับมาใช้ในปัจจุบันไม่ได้ดูเชยแต่อย่างใดเลย 

ข้อเสีย
เท่าที่พบมา แป้นหมุนค่า ASA ปรับยาก คือออกแบบมาให้หมุนยากเพื่อป้องกันมากกกว่า
แฟลช หมดสภาพ กลับบ้านเก่ากันไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ใช้ถ่ายกลางวันหรือในอาคารที่แสงน้อย ค่า f2.8 ยังพอเก็บภาพได้

ความประทับใจ
ถ่ายง่าย ได้ภาพแน่นอน การวัดแสง การโฟกัสทำได้แม่นยำ เลนส์มีความคม 
.
การที่เราถือกล้องไปถ่ายแล้วคาดหวังว่าเก็บภาพตรงหน้าไว้ได้ แสง สีแบบนี้ ในแบบที่ตาเราเห็นได้ ถือเป็นความน่าพอใจอย่างมาก ชนิดที่คนถ่ายไม่ต้องการปรับตั้งค่าอะไร แค่ ยกกล้อง เล็ง กดถ่าย แล้วได้ภาพออกมาดีด้วย

ถือเป็นความน่าประทับใจอย่างยิ่ง

.
Camera : Konica C35 AF
Film : Kodak ColorPlus200
Develop : A&B Digital Lab
Location : สวนรถไฟ, ทุ่งดาวเรือง ถ.เกษตรนวมินทร์, Bluetamp Cafe, ปากช่อง, สะพานลอยยูเนียนมอลล์ 

.
มาดูหน้าตาหล่อเหลา เอาใจสายฟิล์มกันหน่อย
























ตัวอย่างรูปถ่ายได้ ถ่ายดี ถ่ายเพลินเกินห้ามใจ








































รายละเอียดกล้องแบบเป็นทางการมากๆ 
เผื่อนักอ่านรีวิวที่ชอบศึกษาสเป็ค (แบบเรา) ต้องการทราบ 
  • Type: 35mm Autofocus & Auto exposure compact camera
  • Lens: Hexanon 38mm f/2.8, 4 elements in 3 groups
  • Shutter: Programmed Leaf shutter with 3 speeds – 1/60s, 1/125s & 1/250s
  • Exposure: Fully automatic – 25 – 400ASA
  • Meter: CdS
  • Sensitivity: EV 9 – EV 17 with 100 asa film
  • Viewfinder: Bright Line 0.41 Magnification
  • Indication: Underexposure warning light, Parallax Correction Mark, Focus measuring square
  • Flash: GN14 – Exposure determined by range measured by autofocus
  • Film Winding: Manual – Lever wind + rewind crank
  • Features: Lens cap obscures viewfinder to prevent errors!
  • Dimensions: 132×76×54mm
  • Weight: 375 grams
ขอบคุณข้อมูลจาก  https://www.lomography.co.th/magazine

23 ตุลาคม 2560

อยากเห็นคนอุ้มแมว ไปดูหนังแมว

แค่ภาพเดียว
ภาพแมวสีนวลหลียวหลัง นั่งบนโซฟาแดงหน้าจอผืนผ้า 
.
ก็ลากเอาสังขารคนที่ตั้งใจนั่งปักหลักในงานหนังสือ ให้จับรถไฟดำดินไปโผล่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้เกือบทันเวลา
.
16.30 : กว่าสิบนาที ที่ก้มมองมือถือเพื่อจะดูว่าบูทที่ตามหาอยู่ไหน และแค่หนึ่งนาทีเท่านั้นตัดใจไม่ต่อคิวหน้าบูท KOOB เหตุผลเดียว จะต้องไปดูหนังแมว
.
17.10  :  ต่อรถสถานีศาลาแดง ลังเลพื้นล่างที่ดูโล่ง แต่แค่ไฟแดงเดียวเราอาจไม่ทัน
17.24  : จ้ำอ้าวจากสถานีตากสิน มอไซค์ห้าสิบบาท แพง ไม่ไปดีกว่า
17.35  : จะถึงป้าย ปณ.กลางแล้ว
17.42  : วิ่งมาตีตั๋ว ให้อารมณ์ประมาณนักวิ่งเหยียดปลายแขนสุดๆ ตอนเข้าเส้นชัย
.
.
รายละเอียดอะไรไม่ได้อ่านเลย แค่รู้ว่ามีแมวมาดูหนัง  แล้วที่จริงอยากอุ้มแมวเรามาดูหนังแมว แต่ลืมมันไปเสียเถอะ ครั้งสุดท้ายที่อุ้มไปหาหมอ เธอหงุดหงิดเบอร์สิบเอ็ดเต็มสิบ
.
.



จะเล่าอย่างไรไม่สปอยล์ดี
.
แมวนินจา
Neko Ninja 
.
แมว+นินจา
ในความเหมือน คงเป็นที่ทั้งสอง เคลื่อนไหวรวดเร็ว และเงียบกริบ
แต่หนึ่งนั้น รักอิสระโดยสายพันธุ์
ส่วนอีกหนึ่งนั้น ผูกโยงยึดติดในกฏ โดยสายเลือด
.
ถ้าวันหนึ่ง นินจาเลือกที่จะแปลงร่างได้ ไม่น่าแปลกใจ ที่จะเลือกเป็นแมว
.
พระเอกแมว มีชื่อน่ารักว่า "ท่านพ่อ" มีเพื่อนเล่นวัยใส ชื่อ "จริงใจ"
เฮ่ย หนังอะไรเนี่ย เรียกรอยยิ้มระบายหน้าได้ตลอดเวลา
.
เหตุการ์ณในเรื่อง ทำให้เราเห็นแมวเป็นคน และดูคล้ายจะเห็นคนเป็นแมว
เห็นคนที่เข้าใจในท่าทีของแมวแค่เสียงเมี๊ยวสั้นๆ
เห็นถึงความพยายามของคน ที่จะอ่านใจแมว
เห็นคนไม่คุ้นเคยกับแมว แต่ก็พ่ายแพ้ต่อความเดียงสาประสาแมว
เห็นคนมีเรื่องราวแต่หนหลังกับแมว แล้วติดสลักความคิดนั้นไว้อยู่กับตัวไม่ยอมปล่อยไป
.
เห็นความผูกพันธ์ที่ไม่ว่าแมวจะเป็นใคร ไม่ว่าใครจะเป็นแมว
เราก็ไม่ทิ้งกัน
.
หนังมีพล็อตดูจริงจัง แต่ในนั้นก็มีมุมอ่อนนุ่มแบบขนแมวมาผสม  มีพลิกสถานการณ์ในตอนท้ายแต่ยังไง "ท่านพ่อ ก็คือท่านพ่อ" จริงไหม
.

ที่สุด
ตัวต้นเรื่องก็มาคลี่คลายปม
"ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้"
.
แค่เรายอมรับว่า ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้
หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ให้ตัวเองได้เปลี่ยนแปลง
และให้ตัวเอง ได้ยอมรับในการเปลี่ยนแปลงนั้น



.
หนังจบแล้ว
ช่วยท้าย ทางผู้จัดได้มอบของที่ระลึกให้กับคนอุ้มแมวมาดูหนังแมว ซึ่งมีมาสองบ้านด้วยกัน
แต่รางวัลมีสาม เลยให้คนมีแมวอยู่ที่บ้านมาอวดรูป

เราก็ใจกล้า ออกไปอวดรูปแมวกับเค้า แล้วก็ได้รางวัลมา
เป็น "บันทึกของแมวเหมียว โคอุเมะซัง"
ขอบคุณ Doc Club สำหรับรางวัลค่ะ
.
Neko Ninja เข้าฉายโรงปกติที่ SF ด้วยนะ
อย่าลืมไปดูกัน
อ้อ..อย่าอุ้มแมวไปเชียวนะ ที่ไหนจะอินดี้เท่าที่ Doc Club Theater โกดัง30 น่ะไม่มีแล้ว


.
เรากลับถึงบ้าน กอดฟัดแมวไปสองรอบ พยายามเล่นจ้องตากับแมว และคุยกับเค้า แบบที่พระเอก(คน) คุยกับท่านพ่อ (แมว) 





28 กันยายน 2560

ทุกหนึ่งวัน

ทุกหนึ่งวัน จะมีเรื่องเจ็บปวดเกิดขึ้นหนึ่งเรื่องเสมอ
.
แล้วเธอเลือกทำอย่างไรกัน
.
บางเรื่องไม่ใหม่ แต่ปะทะกันเมื่อไหร่ ก็ให้แผลสดใหม่เสมอ
บางเรื่องที่แผลนิดเดียว บางทีใช้เวลาเยียวยากว่าแผลใหญ่
ด้วยความลึกของแผลนั้น
.
แล้วเธอเลือกทำอย่างไรกัน
.
ไม่ต้องตอบเราหรอก เราก็ไม่อาจตอบเธอเช่นกัน
.
เราจะกล้าตั้งชื่ออัลบัมนี้ว่า ยาบรรเทาเจ็บในหนึ่งวัน เช่นนั้นจริงเหรอ
แต่เราก็ตั้งไปแล้ว


22 กันยายน 2560

22 กย. ฟ้าครึ้ม กับงานค้าง

บล็อคเดือนนี้เพิ่งมีแค่สองชิ้น
อเนจใจ.
.
ก่อนหน้าเดินทางไกล
ไปธุระกับแม่
มาทางไกล
ก็ใช้เวลากับแม่
.
สามวันแรกไม่มีความเคลื่อนไหวในหัว
เข้าวันที่หกเจ็ด เริ่มดีขึ้น
ทำงานได้
.
เริ่มมี แคปชั่นในหัวมาอีกละ
สลับกับบางเวลาแบล็งค์ๆ
.
อันที่จริงเรื่องกระทบใจเยอะมาก
แต่ถ่ายทอดออกมาไม่ได้
เหมือนกับคนที่เตรียมเรื่องมาเล่า แต่ไปหน้าชั้นกลับพูดไม่ออก
ติดอะไรสักอย่าง
แล้วเลือกกลืนความจริงนั้นเข้าไปอีกรอบ
.
สุดท้าย ความจริงคือกากชนิดหนึ่งที่รอขับออกจากร่างกาย

ภาพประกอบ : Olympus XA2 + Ilfordpan400 / A&B Digital Lab

8 กันยายน 2560

ภาพสตรีท นิิทรรศการ และร้านกาแฟ กับ IT HAPPENED AROUND HERE / อิท แฮปเพ่น บาย เต้




ศุกร์ต้นเดือน
การไหลเลื่อนของยวดยาน
เหงื่อไหลซึมไรผม ให้รสเค็มเหนือริมฝีปาก

ความวุ่นวายทั้งหลายล้วนแต่ผลักไส ให้เราอยากกลับไปขดตัวนิ่งอยู่มุมหนึ่งของห้องอย่างเช่นเคย

แต่วันนี้มีอะไร ดูว่ามีอะไรในเย็นวันนี้ เราไม่คิดว่าเราจะลืม แต่เพียงแค่บางทีเราก็กลับใจเปลี่ยนไปมา
สิ่งที่เราคิดคือ เราจำได้ว่ามีงานสตรีทเปิดตัววันนี้ แต่เราก็จำได้ว่าเราแค่อยากไปดูภาพ เราไม่ได้อยากไปงาน

"วันศุกร์เจอกันนะครับพี่.. "

มีคำถามว่า อะไรที่ทำให้ อินโทรเวิร์ทผู้มีความสุขกับพื้นที่ปลอดภัยรอบตัวอย่างเรา ถึงกับลุกออกไปข้างนอก ไปในที่ที่ไม่รู้จักใครเลย อะไรคือแรงบันดาลใจนั้น 

บ่ายวันก่อนที่ร้านกาแฟ หนุ่มน้อยเจ้าของผลงานสตรีท กับนิทรรศการที่กำลังจะจัดขึ้น ได้นั่งเล่าความเป็นมาเป็นไป จนเราลืมไปว่าห้านาทีก่อนเราต่างก็รู้จักแค่ความว่างเปล่าของกันและกัน

เต้เล่าให้ฟังว่า ได้ไปทำเวิร์คชอป กับกลุ่มสตรีทโฟโต้ไทยแลนด์ และออกไปถ่ายงานมากขึ้น และตั้งใจทำ JP365days  และออกไปเดินถ่าย ถ่าย และถ่าย ถ่ายในสถานที่รอบตัวเต้ ถ่ายที่ละแวกบ้าน ถ่ายที่ริมทะเลสาบ ถ่ายข้างทาง ถ่ายตึกตระหง่านตรงหน้า ถ่ายผู้คน ถ่ายกาลเวลาที่หยุดไว้ในชัตเตอร์เดียวของเต้

และสิ่งที่เก็บไว้ได้หลังม่านชัตเตอร์นั้น ไม่ได้หยุดอยู่แค่ sd card / external harddrive แต่เต้ได้เลือกที่จะส่งภาพเหล่านั้นสื่อสารไปยังอีกฟากโลก โลกที่สีสันของสตรีทอึกทึก แสบสันต์ และมีมนต์สะกดผู้คนให้ยืนจิกเท้าอยู่ตรงหน้า.. ภาพแปลกตาล้วนน่าตะลึง

ถ้าเพียงแต่แค่นั้น เราคงไม่ได้คิดจะมายืนรอดูอยู่ตรงนี้

ก็เพราะความพยายามส่งเสียงด้วยภาพของเค้า สามารถสื่อสารไปยังวัฒนธรรมอีกฝั่งได้ ผลงานเต้จึงได้รับการคัดลือกให้เข้ารอบ final list  มีคนไทยไม่กี่ราย ที่ไปได้ถึงตรงนี้

คงไม่ต้องถามแล้วว่าความปิติมากล้นแค่ไหน
.
เราชอบถ่ายรูป เราถ่ายไปเหมือนกิจกรรมหนึ่งเช่นเดียวกับการอาบน้ำ เข้าส้วม เราบันทึกเรื่องราวได้บ้าง เราถ่ายทอดอะไรได้บ้าง เรายังเรียนรู้อยู่ทุกวันที่จะสร้างภาพของเราในแบบนั้นแบบนี้ ให้ดีขึันกว่าเมื่อวาน

เรารู้จัก ภาพแนวสตรีทอย่างกระท่อนกระแท่น เราพยายามดูตัวอย่าง บางทีเราคิดว่าใช่ และก็ใช่.. เป็นเราที่คิดไปเอง การได้เห็นภาพสตรีทจากเพื่อนๆ นักถ่ายภาพ ทำให้เราสนใจมากขึ้น พยายามมากขึ้น แต่พยายามของเราคงยังไม่เท่าไหร่

และที่เราพบแน่นอนเลยคือ มันยาก มันยากในเรื่องของจังหวะ มันเป็นความบ้าบิ่นที่ลงตัว และมันเป็นหนึ่งเดียวกันของความพยายามอดทน และการรอคอย 

รอคอยให้ได้มาซึ่ง Dicisive moment รอคอยจังหวะที่พอดี ที่สวยงาม
.
อาจมีเพียงเสี้ยวของเสี้ยววินาที คุณจับมันไว้หลังม่านชัตเตอร์ได้ไหม
.
ยากอย่างนี้ แต่หนุ่มคนนี้ทำได้ถึงขนาดเข้ารอบไฟนอลสิสต์ทุกรายการ เราว่าเค้าก้าวข้ามไปสู่เวทีใหญ่ได้อย่างสวยงาม

วันที่เราพบกันอีกครั้ง ชายหนุ่มคนนี้ยังเป็นคนยิ้มง่าย ต้อนรับขับสู้ พี่ๆ และเพื่อนๆ ในกลุ่มสตรีทอย่างเป็นกันเอง ความเป็นธรรมชาติจึงเป็นตัวตนที่ปรากฏให้เห็น.. เหมือนเช่นในภาพที่เค้านำเสนอ และภาพนั้นก็ถูกมองด้วยสายตาเดียวกัน ทั่วโลก

ขอแสดงความยินดี กับนิทรรศการ IT HAPPENED AROUND HERE นิทรรศการภาพภ่ายสตรีทของเต้ จตุพร ปทีปะปานี สตรีทโฟโตกราฟฟี่ชาวไทยที่ไปฝากผลงานไว้ระดับสากลมาแล้ว

นิทรรศการเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 - 30 กันยายน 2560 ที่ร้าน Low Poly Cafe' ร้านกาแฟอบอุ่นและเป็นกันเอง ตั้งอยู่ในเมืองทองธานี

สถานที่หาไม่ยาก ขับไปหลัง Be Hive เจอซอยหมู่บ้าน เลี้ยวหา ซอย A5

.
งานเปิดตัวผ่านไปได้ด้วยดี เพื่อนพี่น้องในวงการสตรีท มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ฝนจะมาฟ้าจะหม่น แต่ทุกคนก็ยังอยู่แสดงความยินดีกับเจ้าของงานอย่างไม่ล่าถอย

ส่วนเรา ผู้มาเยือนในครั้งที่สอง..ก็สัมผัสได้ถึงความมีพลัง พลังของคนหนุ่มสาว พลังอย่างนี้ขับเคลื่อนโลกอนาคตได้แน่ โปรดติดตามชม